tag:blogger.com,1999:blog-49024445470734810632024-03-13T07:15:20.155-07:00Science Experiences for Early Childhoodแฟ้มสะสมงาน วิชาการจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยน.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.comBlogger16125tag:blogger.com,1999:blog-4902444547073481063.post-57860593159994383532011-09-27T02:02:00.000-07:002011-10-08T06:40:56.547-07:00ครั้งที่ 16 วันที่ 27 กันยายน พ.ศ 2554<span style="font-size:130%;"><span style="color:#000000;">วันนี้อาจารย์สรุปความรู้ทั้งหมด</span><br /></span><br /><br /><div><a href="http://1.bp.blogspot.com/-xEbfNdl9f10/TpA7lKTORVI/AAAAAAAAAL0/dBUD4x91Sn4/s1600/b1.jpg"><img style="MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 274px; FLOAT: left; HEIGHT: 175px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5661090241210893650" border="0" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/-xEbfNdl9f10/TpA7lKTORVI/AAAAAAAAAL0/dBUD4x91Sn4/s200/b1.jpg" /></a></div><br /><br /><div><a href="http://1.bp.blogspot.com/-xEbfNdl9f10/TpA7lKTORVI/AAAAAAAAAL0/dBUD4x91Sn4/s1600/b1.jpg"></a></div><br /><br /><div><a href="http://1.bp.blogspot.com/-xEbfNdl9f10/TpA7lKTORVI/AAAAAAAAAL0/dBUD4x91Sn4/s1600/b1.jpg"></a></div><br /><br /><br /><br /><div><a href="http://1.bp.blogspot.com/-xEbfNdl9f10/TpA7lKTORVI/AAAAAAAAAL0/dBUD4x91Sn4/s1600/b1.jpg"></a></div><br /><br /><div></div>น.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4902444547073481063.post-75084611065128063572011-09-27T02:01:00.000-07:002011-10-08T07:24:40.419-07:00ครั้งที่ 15 วันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2554<span style="color:#000000;">วันนี้อาจารย์ให้ส่งแผนการจัดประสบการณ์ กลุ่มของดิฉันเขียนแผนเรื่อง หอย<br /></span><span style="color:#009900;">องค์ประกอบของการเขีนยแผนมีดังนี้</span><br /><span style="color:#ff0000;">วิธีการ</span> <span style="color:#000000;">1.ศึกษาจากหลักสูตร<br />2.สาระที่ควรรู้<br />- ใกล้ตัวเด็ก<br />- มีผลกระทบต่อเด็ก<br />3.ผ่านกิจกรรมเสริมประสบการณ์<br /></span><span style="color:#ff0000;">วัตถุประสงค์</span><br /><span style="color:#000000;">1.เด็กสามารถบอกชื่อ บอกลัษณะของสิ่งนั้นๆได้<br />2.เด็กบอกลำดับขั้นตอน ของสิ่งนั้นๆได้<br />3.เด็กบอกประโยชน์ของสิ่งนั้นๆได้<br />สาระที่ควรรู้ คือ เนื้อหาสาระของเรื่องที่เราจะสอน</span><br /><span style="color:#ff0000;">ประสบการณ์สำคัญ</span><br /><span style="color:#000000;">-ทักษะการสังเกต<br />-ทักษะการจำแนกประเภท<br />-ทักษะการวัด<br />-ทักษะการสื่อความหมาย<br />-ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล<br />-ทักษะการหาความสัมพัธ์ระหว่างสเปสกับเวลา<br /></span><span style="color:#000000;">-ทักษะการคำนวณ<br /></span><span style="color:#ff0000;">กิจกรรม</span><br /><span style="color:#000000;">-ขั้นนำ<br />-ขั้นสอน<br />-ขั้นสรุป<br /></span><span style="color:#ff0000;">สื่อ/อุปกรณ์</span><br /><span style="color:#ff0000;">การประเมินผล</span><br /><span style="color:#000000;">-การสังเกต<br />-การสนทนาซักถาม<br />-ชิ้นงานของเด็ก<br />-จัดแฟ้มสะสมงาน<br />-นำไปเทียบกับเกณฑ์พัฒนาการว่าเด็กทำได้ไหม</span>น.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4902444547073481063.post-44993297839116365642011-09-27T01:59:00.000-07:002011-10-08T07:28:42.581-07:00ครั้งที่ 14 วันที่ 13 กันยายน พ.ศ 2554<span style="color:#000000;">วันนี้อาจารย์ได้สอนเรื่อง การเขียนแผนการจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย</span><br /><span style="color:#000000;">อาจารย์ยกตัวอย่างการเขียนแผนเรื่อง เห็ด</span>น.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4902444547073481063.post-83127344959887920792011-09-08T01:26:00.000-07:002011-09-21T00:14:20.867-07:00ครั้งที่ 12 วันที่ 6 กันยายน พ.ศ.2554<span style="color:#000000;">วันนี้ส่งงานการทำโครงการ<br /><span style="color:#ff0000;">อาจารย์ให้ดุซีดีเรื่องมหัศจรรย์ของน้ำ: ความรู้ที่ได้วันนี้</span><br />น้ำ เป็นส่วนประกอบของร่างกาย อากาศมีความเกี่ยวข้องกับร่างกายเพราะเนื่องจากอากาศร้อนมากทำให้ร่างกายเสียเหงื่อมากดังนั้นเราควรดื่มน้ำวันละ 7-8 แก้วต่อวัน<br /><span style="color:#ff0000;">สิ่งมีชีวิตต่า ๆ ในโลกมีส่วนประกอบของน้ำหรือไม่<br />วิธีการทดลอง<br /></span>1.หาผลไม้พืชผักต่าง ๆ เช่น แอปเปิ้ล แครอท<br />2.นำมีดมาหันผลไม้เป้นชิ้นเล็ก ๆ แล้วใช้เครื่องบดให้ละเอียด<br />3.แล้วลองบีบดูจะเห็นว่าน้ำออกมาจากผลไม้<br />จะเห็นได้ว่า น้ำจะมีส่วนประกอบในสิ่งมีชีวิต ร่างกายของมนุษย์มีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ 70 % ผักและผลไม้มีน้ำเป็นส่วนประกอบ 90 % ดังนั้นถ้าคนขาดน้ำจะทำให้รางกายอ่อนเพลีย<br /><span style="color:#ff0000;">ฝนตกจะเกิดจากอะไร<br /></span>คุณสมบัติของน้ำมี 3 ประการ คือ<br /></span><span style="color:#000000;">1.ของแข็งคือ น้ำแข็ง<br />2.ของเหลวคือ น้ำที่เราดื่มและใช้อาบทุกวัน<br />3.ก๊าซคือ ไอน้ำ<br />น้ำสามารถเปลี่ยนสถานะจากของแข็งกลายเป็นของเหลว จากของเหลวกลายเป็นไอ จากไอกลายเป็นของเหลว<br /><span style="color:#ff0000;">วิธีการทดลองการเปลี่ยนสถานะของน้ำ<br /></span>1.เริ่มแรกต้มน้ำแข็งให้เดือด น้ำแข็งจะละลายกลายเป็นของเหลว<br />2.ต้มต่อไปจนมีไอขึ้นมา จากนั้นก็เอาจานใส่น้ำแข็งมาวางไว้บนน้ำที่เราต้มระยะห่างพอสมควร<br />จะเห็นได้ว่าการเกิดฝนมีลักษณะเหมือนกับการทดลอง ฝนก็คือไอน้ำที่เระเหยขึ้นไปบนอากาศ รวมตัวกันกลายเป็นก้อนเมฆและตกลงมาเป็นฝนสู่พื้นดิน<br /><span style="color:#ff0000;">แอ่งน้ำที่เกิดขึ้นหลังฝนตกแห้งได้อย่างไร<br />วิธีการทดลอง<br /></span>1.นำน้ำที่มีปริมาตรเท่ากัน 2 แก้ว<br />2.แก้วที่ 1 เทลงใส่จาน<br />แก้วที่ 2 เทลงใส่จาน<br />3.นำไปตากแดดจะเห็นว่าน้ำในจานแห้งเกือบหมด แต่ในแก้วลดลงนิดเดียว<br />ดังนั้นแอ่งน้ำที่เกิดขึ้นเมื่อหลังฝนตกจะแห้งไปเมื่อโดนความร้อนของแสงแดด<br /></span><span style="color:#ff0000;">ธรรมชาติของน้ำ<br />เมื่อนำกลายเป็นน้ำแข็งจะขยายตัว 12 % </span><br /><span style="color:#ff0000;">วิธีการทดลอง</span><br /><span style="color:#000000;">1.นำน้ำใส่ลงในแก้วไม่ต้องเต็ม เอากระดาษปิดไว้</span><br /><span style="color:#000000;">2.เมื่อนำไปแช่ในตู้เย็นจะเห็นว่ากลายเป้นน้ำแข็งเต็มแก้วเพราะน้ำแข็งมีโมเลกุลน้อยกว่าน้ำหรือน้ำมีโมเลกุลหนาแน่นกว่าน้ำแข็ง</span><br /><span style="color:#ff0000;">แรงดันของน้ำ</span><br /><span style="color:#ff0000;">วิธีการทดลอง</span><br /><span style="color:#000000;">1.เจาะรูที่ขวด 3 รูระดับไม่เท่ากันแล้วเอาเทปกาวแปะไว้</span><br /><span style="color:#000000;">2.จากนั้น</span><span style="color:#000000;">เอาน้ำใส่ให้เต็มขวด แล้วเปิดรูที่เจาะไว้ จะเห็นได้ว่าน้ำจากรูด้านล่างจะพุ่งแรงสุดเนื่องจากความกดดันของน้ำด้านบนกดลงมา<br />จากการทดลอง น้ำที่อยู่ด้านล่างจะถูกกดดันจากน้ำด้านบน ถ้าเราอยู่ในน้ำที่ลึกมากความกดดันจะยิ่งมากขึ้น</span>น.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4902444547073481063.post-90096515818150384472011-09-08T01:25:00.000-07:002011-10-08T06:42:01.545-07:00คร้งที่ 11 วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2554<a href="http://1.bp.blogspot.com/-qlHevGrdthw/TpA7OuBUIcI/AAAAAAAAALs/Id05CYQ5bMQ/s1600/b2.jpg"><img style="MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 301px; FLOAT: left; HEIGHT: 137px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5661089855662465474" border="0" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/-qlHevGrdthw/TpA7OuBUIcI/AAAAAAAAALs/Id05CYQ5bMQ/s200/b2.jpg" /></a><br /><br /><br /><div><br /><br /><br /><br /><br /><div><a href="http://2.bp.blogspot.com/-VaD293UfNew/TpA6EiYNAFI/AAAAAAAAALc/hvSilC_KYuU/s1600/%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3.jpg"></a><br /><br /><br /><br /><a href="http://1.bp.blogspot.com/-I6Ox3jAVlNI/TpA7JAJq32I/AAAAAAAAALk/Kyt0Li-F8NE/s1600/b3.jpg"><img style="MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 279px; FLOAT: left; HEIGHT: 160px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5661089757450133346" border="0" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/-I6Ox3jAVlNI/TpA7JAJq32I/AAAAAAAAALk/Kyt0Li-F8NE/s200/b3.jpg" /></a><br /><br /><br /><div><a href="http://4.bp.blogspot.com/-vJPGyC-2Znw/TpA51xPm0GI/AAAAAAAAALU/oelVr1qMtfU/s1600/%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%258A.jpg"></a><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><div></div></div></div></div>น.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4902444547073481063.post-60111643857991200032011-08-27T06:07:00.000-07:002011-10-08T05:13:30.270-07:00ครั้งที่ 10 วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2554<a href="http://4.bp.blogspot.com/-AJ5p-QReqdA/TpA-XiEr0NI/AAAAAAAAAL8/kQeB1lSinIg/s1600/%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A1.jpg"><img style="MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 317px; FLOAT: left; HEIGHT: 199px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5661093305609081042" border="0" alt="" src="http://4.bp.blogspot.com/-AJ5p-QReqdA/TpA-XiEr0NI/AAAAAAAAAL8/kQeB1lSinIg/s200/%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A1.jpg" /></a><br /><br /><div></div>น.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4902444547073481063.post-12868978683262090132011-08-24T04:16:00.000-07:002011-08-25T01:22:56.476-07:00ครั้งที่ 9 วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2554<span style="color:#000000;">วันนี้ได้ศึกษาจากวิดีโอเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เรื่องความลับของแสง
<br /></span><span style="color:#ff0000;">ความลับของแสง
<br /></span><a href="http://1.bp.blogspot.com/-nYh1H7Ec6nM/TlYBSebnO-I/AAAAAAAAAJs/Ai4owXjtD80/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B5.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5644700599873649634" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 49px; CURSOR: hand; HEIGHT: 50px" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/-nYh1H7Ec6nM/TlYBSebnO-I/AAAAAAAAAJs/Ai4owXjtD80/s200/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B5.jpg" border="0" /></a> <span style="color:#ff0000;">"ฝนตกหนักมองอะไรข้างนอกไม่เห็น ไฟดับก็จะไม่มีแสงสว่างซึ่งแสงสว่างเกี่ยวข้องกับการมองเห็น ถ้ารอบๆตัวเราไม่มีแสงสว่างก็จะทำให้เรามองไม่เห็น"
<br /></span><span style="color:#000000;">แสงสว่างเป็นคลื่นชนิดหนึ่ง แสงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมาก 300,000 กิโลเมตร/วินาที แสงจะช่วยเราในการมองเห็นได้
<br /></span><span style="color:#ff0000;">วิธีการทดลองการเดินทางของแสง</span>
<br /><span style="color:#000000;">1.นำกล่องเจาะรูตรงกลาง นำตุ๊กตาใส่ลงในกล่องแล้วปิดฝา ถ้าเรามองไปเราก็จะไม่เห็นอะไรเลย
<br />2.คราวนี้เอาฝากล่องออกเราก็จะมองเห็นตุ๊กตา
<br />3.เจาะรูอีกรู เอาไฟฉายส่องเขาไปเราก็จะมองเห็นวัตถุ
<br />-ที่เรามองเห็นวัตถุต่างๆรอบๆตัวได้ คือ แสงลงมาส่องวัตถุแล้วแสงของวัตถุก็จะสะท้อนเข้ามาในตาของเราทำให้เรามองเห็นวัตถุต่างๆได้
<br />-แสงพุ่งเข้ามาหาเรา จะเคลื่อนที่ในลักษณะเป็นเส้นตรงและไม่มีทางเปลี่ยนทิศทางได้
<br /></span><span style="color:#ff0000;">คุณสมบัติของแสงมี 3 ประการคือ วัตถุที่แสงส่องผ่านได้และไม่ได้หรือเรียกว่า</span>
<br /><span style="color:#000000;">1.วัตถุโปร่งแสง แสงทะลุผ่านวัตถุได้บางชนิดเท่านั้น เช่น กระจกมัวๆ
<br />2.วัตถุโปร่งใส เช่น กระจกใส พลาสติกใส
<br />3.วัตถุทึบแสง จะดูดกลืนแสงไว้ เช่น ไม้ หิน เหล็ก แม้กระทั่งตัวเรา
<br /></span><span style="color:#ff0000;">ประโยชน์ของแสง</span>
<br /><span style="color:#000000;">1.การเคลื่อนที่ของแสงสามารถทำให้เกิดกล้องฉายภาพ </span>
<br />น.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4902444547073481063.post-55077065922944069172011-08-24T04:12:00.000-07:002011-08-25T02:15:26.959-07:00ครั้งที่ 8 วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ.2554<span style="color:#33cc00;">" แรงดึงดูดของแม่เหล็ก"</span>
<br /><span style="color:#000000;">เป็นแรงที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากแท่งแม่เหล็ก แม่เหล็กสามารถดูดวัตถุบางชนิดได้ วัตถุที่แม่เหล็กดูดนั้น ต้องเป็นวัตถุที่เป็นแม่เหล็กหรือวัตถุที่มีคุณสมบัติคล้ายแม่เหล็กหรือที่เรียกว่า สื่อหรือวัตถุที่เป็นสื่อแม่เหล็ก ได้แก่ วัตถุจำพวกโลหะ เหล็ก นิกเกิล และวัตถุที่ไม่ได้เป็นสื่อแม่เหล็ก เช่น ไม้ แก้ว พลาสติกเป็นต้น</span>
<br /><span style="color:#000000;">ดั้งนั้น แม่เหล็กจะดูดวัตถุที่เป็นสื่อแม่เหล็ก แม่เหล็กที่ใช้ในปัจจุบันทำมาจากเหล็กซึ่งมีรูปร่างต่างกัน เช่น รูปตัวยู รูปเกือกม้า รูปแท่งสี่เหลี่ยม รูปวงกลมเป็นต้น</span>
<br /><span style="color:#000000;">ถ้าเรานำแท่งแม่เหล็กทั้ง 2 แท่งเข้าใกล้กัน โดยหันหัวขั้วเดียวกันเข้าหากัน จะเกิดการผลักกันและถ้าหันหัวขั้วต่างกันเข้าหากันจะเกิดการดูดกัน</span>
<br /><span style="color:#33cc00;">ประโยชน์ของแม่เหล็ก</span>
<br /><span style="color:#000000;">1.ใช้ประดิษฐ์เป็นของเล่น ของเล่นหลายชนิดจะมีแม่เหล็กเป็นส่วนประกอบ</span>
<br /><span style="color:#000000;">2.ใช้ติดที่ประตูตู้เย็น แม่เหล็กจะถูกใส่ไว้ที่ประตูโดยมีแผ่นยางหุ้มเพื่อทำให้ประตูตู้เย็นปิดสนิท ป้องกันไม่ให้ความเย็นออกมาจากตู้
<br />3.ใช้หาทิศ แม่เหล็กจะหันขั้นวเหนือไปทางทิศเหนือ และจะหันขั้วใต้ไปทางทิศใต้เสมอ ดังนั้นเราจึงใช้แม่เหล็กทำเข็มทิศ</span>
<br /><span style="color:#33cc00;">ขั้นตอนการประดิษฐ์ของเล่น "เขาวงกตหรรษา"</span>
<br /><span style="color:#000000;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-P7R8SyBzIE8/TlYKf-inVWI/AAAAAAAAAKk/U0Gvzb8gnBk/s1600/10082011531.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5644710727435900258" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 200px; CURSOR: hand; HEIGHT: 150px" alt="" src="http://3.bp.blogspot.com/-P7R8SyBzIE8/TlYKf-inVWI/AAAAAAAAAKk/U0Gvzb8gnBk/s200/10082011531.jpg" border="0" /></a><a href="http://3.bp.blogspot.com/-GDRgUbLO8Ts/TlYRwKR6feI/AAAAAAAAAK0/BYBr7KD3a-U/s1600/10082011529.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5644718702046379490" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 200px; CURSOR: hand; HEIGHT: 150px" alt="" src="http://3.bp.blogspot.com/-GDRgUbLO8Ts/TlYRwKR6feI/AAAAAAAAAK0/BYBr7KD3a-U/s200/10082011529.jpg" border="0" /></a>
<br /></span>
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br /><div>
<br />
<br /><div><a href="http://3.bp.blogspot.com/-s_-AmDRVU4k/TlYKfvjkvvI/AAAAAAAAAKU/I19Q-rpaSYw/s1600/15082011535.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5644710723413393138" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 200px; CURSOR: hand; HEIGHT: 150px" alt="" src="http://3.bp.blogspot.com/-s_-AmDRVU4k/TlYKfvjkvvI/AAAAAAAAAKU/I19Q-rpaSYw/s200/15082011535.jpg" border="0" /></a></div></div><a href="http://1.bp.blogspot.com/-coE_0L-2Yac/TlYKf7RlQOI/AAAAAAAAAKc/cMom5HARq2Y/s1600/15082011533.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5644710726559154402" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 200px; CURSOR: hand; HEIGHT: 150px" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/-coE_0L-2Yac/TlYKf7RlQOI/AAAAAAAAAKc/cMom5HARq2Y/s200/15082011533.jpg" border="0" /></a>
<br />
<br />
<br /><div>
<br />
<br />
<br /><div><a href="http://3.bp.blogspot.com/-P7R8SyBzIE8/TlYKf-inVWI/AAAAAAAAAKk/U0Gvzb8gnBk/s1600/10082011531.jpg"></a></div>
<br />
<br />
<br />
<br /><div><a href="http://3.bp.blogspot.com/-P7R8SyBzIE8/TlYKf-inVWI/AAAAAAAAAKk/U0Gvzb8gnBk/s1600/10082011531.jpg"></a></div>
<br /><div></div></div>
<br />น.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4902444547073481063.post-24120560458944349912011-08-03T01:27:00.000-07:002011-10-08T06:49:36.639-07:00ครั้งที่ 7 วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2554<a href="http://4.bp.blogspot.com/-gpLGCvEnQ60/TpBUi6_WN4I/AAAAAAAAAMc/fGBwB-zyY3Q/s1600/be2.jpg"><img style="MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 133px; FLOAT: left; HEIGHT: 162px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5661117690531952514" border="0" alt="" src="http://4.bp.blogspot.com/-gpLGCvEnQ60/TpBUi6_WN4I/AAAAAAAAAMc/fGBwB-zyY3Q/s200/be2.jpg" /></a> <span style="color:#000000;">วันนี้มีการนำเสนอของเล่นวิทยาศาสตร์ของแต่ละคน</span><br /><span style="color:#000000;">เพื่อนแต่คนนำของเล่นมาเสนอว่าของเล่นของตนเองมีวิธีเล่นอย่างไร และเป็นวิทยาศาสตร์อย่างไรซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันภายในห้องเรียน ของเล่นแต่ละชิ้นจะมีข้อความรู้ทางวิทยาศาสตร์อยู่ ของดิฉันทำเป็น"หุ่นแม่เหล็กดูุด"</span><br /><span style="color:#ff0000;">อุปกรณ์</span><br /><span style="color:#000000;">1.ฝากล่องรองเท้าทีเหลือใช้</span> <a href="http://2.bp.blogspot.com/-dregclThwtw/TpBTul7BEpI/AAAAAAAAAME/pAc2wuuRVrA/s1600/be2.jpg"></a><br /><span style="color:#000000;">2.แม่เหล็ก</span><br /><span style="color:#000000;">3.ลวดเสียบกระดาษ</span><br /><span style="color:#000000;">4.กระดาษ</span><br /><span style="color:#000000;">5.สี</span><br /><span style="color:#000000;">6.กาว</span><br /><span style="color:#ff0000;">วิธีทำ</span><br /><span style="color:#000000;">1.วาดตัวหุ่นคนหรือสัตว์บนกระดาษและตัดออกมา แล้วระบายสีตามใจชอบ</span><br /><span style="color:#000000;">2.ใช้เทปกาวติดลวดเสียบไว้ที่ฐานของหุ่นแต่ละตัว อย่าลืมว่าเราต้องให้หุ่นมีน้ำหนักเบาที่สุด</span><br /><span style="color:#000000;">3.พับส่วนฐานข้างล่างตามแนวเส้นพับ</span><br /><span style="color:#000000;">4.ใช้ฝากล่องรองเท้าซึ่งทำเป็นเวที</span><br /><span style="color:#000000;">5.วางหุ่นบนฝากล่อง ถือแม่เหล็กไว้ข้างใต้กล่องให้แม่เหล็กอยู่ใต้หุ่นตัวใดตัวหนึ่่ง เมื่อเราเลื่อนแม่เหล็กหุ่นตัวนั้นก็จะเคลื่อนตาม</span><br /><span style="color:#ff0000;">เมื่อนำเสนออาจารย์เสนอแนวทางให้ของเล่นน่าสนใจ โดยการทำเป็นทางเขาวงกตเลื่อนแม่เหล็กแล้วหาทางออกให้เจอ</span><br /><span style="color:#ff0000;">ของเล่นจะได้เล่นอย่างสนุกมากขึ้น<a href="http://2.bp.blogspot.com/-zEpit6McAto/TpAN-t4BDBI/AAAAAAAAALM/5L9J4yuBXFU/s1600/be2.jpg"></a></span>น.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4902444547073481063.post-27502942361317217722011-07-27T04:53:00.000-07:002011-08-25T02:26:24.150-07:00ครั้งที่ 6 วันที่ 26 กรกฏาคม พ.ศ.2554<span style="font-family:times new roman;color:#000000;"><span style="color:#6666cc;">ลักษณะของเด็กปฐมวัย
<br /></span>-วัยที่มีความอยากรู้อยากเห็น
<br />-วัยที่มีพัฒนาการทางสติปัญญาสูงที่สุด
<br />-แสวงหาความรู้ความสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเองจากสิ่งแวดล้อมรอบ ๆตัว
<br />ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
<br />ทักษะกระบวนการทางวิทยาศสตร์เป็นทักษะที่ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยสามารถคิดหาเหตุผล แสวงหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาได้
<br /><span style="color:#3333ff;">1.ความหมายของทักษะการสังเกต
<br />การใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 โดยมีจุดประสงค์เพื่อที่จะหาข้อมูลซึ่งเป็นรายละเอียดของสิ่งนั้น ๆ
<br /></span>-สังเกตรูปร่างทั่วไป
<br />-สังเกตควบคู่กับการวัดปริมาณ
<br />-การสังเกตเพื่อรู้ถถึงการเปลี่ยนแปลง
<br /><span style="color:#3333ff;">2.ความหมายทักษะการจำแนกประเภท
<br />ความสามารถในการแบ่งประเภทต่างๆ(โดยตั้งเกณฑ์การแบ่ง และนำสิ่งนั้นไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์)
<br /></span>-ความเหมือน
<br />-ความแตกต่าง
<br />-ความสัมพันธ์ร่วม
<br /><span style="color:#3333ff;">3.ความหมายทักษะการวัด
<br />การใช้เครื่องมือวัดหรือหาปริมาณ โดยมีหน่วยกำกับ
<br />แบบเป็นทางการ เช่น ไม้บรรทัด ตลับเมตร
<br />แบบไม่เป็นทางการใช้สำหรับเด็กปฐมวัย เช่น ใช้แขน ขา มือ วัดความยาว
<br /></span>-รู้จักกับสิ่งของที่จะวัด
<br />-การเลือกเครื่องมือที่นำมาใช้วัด
<br />-วิธีการที่เราจะวัด
<br /><span style="color:#3333ff;">4.ความหมายทักษะการสื่อความหมาย</span></span>
<br /><span style="font-family:times new roman;color:#3333ff;">เป็นการสื่อสาร ถ่ายทอดให้ผู้อื่นเข้าใจ เช่น การพูด การเขียน วาดรูป และแสดงท่าทางสีหน้า</span>
<br /><span style="font-family:times new roman;color:#000000;">-บรรยายความหมายและคุณสมบัติของวัตถุ</span>
<br /><span style="font-family:times new roman;color:#000000;">-บันทึกการเปลี่ยนแปลงได้</span>
<br /><span style="font-family:times new roman;color:#000000;">-บอกความสัมพันธ์ของข้อมูลที่ได้จัดกระทำ(ระยะเวลาของการเปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน)</span>
<br /><span style="font-family:times new roman;color:#000000;">-จัดกระทำข้อมูลในรูปแบบต่างๆ เช่น แผนภาพ กราฟข้อมูล</span>
<br /><span style="font-family:times new roman;color:#3333ff;">5.ความหมายทักษะการลงความเห็นของข้อมูล</span>
<br /><span style="font-family:times new roman;color:#3333ff;">คือการสรุปจากที่เราจดบันทึกแล้วแสดงความคิดเห็นลงไปโดยอาศัยความรู้หรือประสบการณ์</span>
<br /><span style="font-family:times new roman;color:#3333ff;">6.ความหมายทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับเวลา</span>
<br /><span style="color:#000000;">คือการรู้จักเรียนรู้ 1 มิติ 2 มิติ 3 มิติ การบอกทิศทาง การบอกเงาที่เกิดจากภาพ 3 มิติการเห็นและเข้าใจภาพที่เกิดขึ้นบนกระจกเงา การหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับเวลาสำหรับเด็กปฐมวัย
<br /></span><span style="color:#3333ff;">7.ความหมายทักษะการคำนวณ</span>
<br /><span style="color:#000000;">ความสามารถในการนับจำนวนของวัตถุ การบวก การคูณ การหาร การนับจำนวนของวัตถุ การนำจำนวนตัวมากำหนดบอกลักษณะต่างๆ เช่น ความกว้าง ความยาว ความสูง พื้นที่ ปริมาตร น้ำหนัก
<br />-การนับจำนวนของวัตถุ
<br />-การบวก ลบ คูณ หาร
<br /></span><span style="font-family:times new roman;color:#000000;"></span>
<br />น.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4902444547073481063.post-11160271846546927982011-07-25T02:37:00.000-07:002011-08-25T02:17:31.059-07:00จัดกิจกรรมผ่านโครงการรณรงค์ลด ละ เลิก เหล้า บุหรี่และสิ่งเสพติด ถวายพ่อหลวง 84 พรรษา<a href="http://4.bp.blogspot.com/-Plzfw-K8TZw/TlYS7WBOfJI/AAAAAAAAAK8/UWNupwl6m3I/s1600/19072011507.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5644719993687800978" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 200px; CURSOR: hand; HEIGHT: 150px" alt="" src="http://4.bp.blogspot.com/-Plzfw-K8TZw/TlYS7WBOfJI/AAAAAAAAAK8/UWNupwl6m3I/s200/19072011507.jpg" border="0" /></a><a href="http://2.bp.blogspot.com/-GbUkl--PbEs/TlYS7n5ja4I/AAAAAAAAALE/9UXq3PGp2j8/s1600/19072011510.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5644719998487456642" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 200px; CURSOR: hand; HEIGHT: 150px" alt="" src="http://2.bp.blogspot.com/-GbUkl--PbEs/TlYS7n5ja4I/AAAAAAAAALE/9UXq3PGp2j8/s200/19072011510.jpg" border="0" /></a>
<br />
<br /><div>
<br />
<br />
<br />
<br /><div>
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br /><a href="http://3.bp.blogspot.com/-wPsDEhG8kwI/TjEeuzEsUuI/AAAAAAAAAJc/PLJpWnq8lgA/s1600/9%255B1%255D.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5634318398149907170" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 200px; CURSOR: hand; HEIGHT: 150px" alt="" src="http://3.bp.blogspot.com/-wPsDEhG8kwI/TjEeuzEsUuI/AAAAAAAAAJc/PLJpWnq8lgA/s200/9%255B1%255D.JPG" border="0" /></a><a href="http://2.bp.blogspot.com/-pt51fdDD_Fk/TjEeqjHYtyI/AAAAAAAAAJU/ygVOvlYzyAg/s1600/7%255B2%255D.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5634318325146760994" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 200px; CURSOR: hand; HEIGHT: 150px" alt="" src="http://2.bp.blogspot.com/-pt51fdDD_Fk/TjEeqjHYtyI/AAAAAAAAAJU/ygVOvlYzyAg/s200/7%255B2%255D.JPG" border="0" /></a>
<br />
<br /><div>
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br /><div><a href="http://3.bp.blogspot.com/-Wfctg2Bw_10/TjEd_owVd0I/AAAAAAAAAJM/3smCzYz7MoU/s1600/1%255B1%255D.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5634317587926316866" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 200px; CURSOR: hand; HEIGHT: 150px" alt="" src="http://3.bp.blogspot.com/-Wfctg2Bw_10/TjEd_owVd0I/AAAAAAAAAJM/3smCzYz7MoU/s200/1%255B1%255D.JPG" border="0" /></a><a href="http://1.bp.blogspot.com/-3kNOTg5TpRc/TjEeyimjeKI/AAAAAAAAAJk/cQZ6uFdk-I0/s1600/11%255B3%255D.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5634318462448007330" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 200px; CURSOR: hand; HEIGHT: 150px" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/-3kNOTg5TpRc/TjEeyimjeKI/AAAAAAAAAJk/cQZ6uFdk-I0/s200/11%255B3%255D.JPG" border="0" /></a>
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br /><div></div></div></div></div></div>
<br />น.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4902444547073481063.post-50887465694645872572011-07-22T02:22:00.001-07:002011-07-22T02:58:16.560-07:00ครั้งที่ 5 วันที่ 19 กรกฏาคม พ.ศ.2554<span style="color:#000000;"><span style="font-family:times new roman;"><strong>วันนี้มีการนำเสนองานและการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์</strong></span><br /></span><span style="font-family:times new roman;color:#000000;">- เพื่อนออกมานำเสนอรายงานเรื่องหลักการจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์</span><br /><span style="font-family:times new roman;color:#ff0000;">บรรยากาศ:อาจารย์แนะนำเรื่องการนำเสนองานควรนำเสนอแบบแปลกใหม่ มีการยกตัวอย่างให้เข้าใจในประเด็นนั้นๆ และกระบวนการนำเสนอควรเป็นไปตามลำดับขั้นตอน</span><br /><span style="color:#000000;"><span style="font-family:times new roman;"><strong>กระบวนการจัดกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์</strong></span><br /></span><span style="font-family:times new roman;"><span style="color:#ff0000;">การหาวัสดุอุปกรณ์</span> <span style="color:#000000;">คือครูผู้สอนควรจัดลำดับขั้นความสำคัญของการหาวัสดุอุปกรณ์ดังนี้</span></span><span style="color:#000000;"><br /><span style="font-family:times new roman;">ขั้นที่ 1 ต้องให้เด็ดเห็นของจริง</span><br /><span style="font-family:times new roman;">ขั้นที่ 2 ต้องให้เด็กเห็นของจำลอง</span><br /><span style="font-family:times new roman;">ขั้นที่ 3 ต้องให้เด็กเห็นรูปภาพ ภาพวาด</span><br /><span style="font-family:times new roman;">ขั้นที่ 4 ต้องให้เด็กเห็นตัวหนังสือเป็นลำดับสุดท้าย</span></span><br /><span style="color:#000000;"><span style="font-family:Times New Roman;">ถ้าการหาวัสดุอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ควรใช้เป็นภาพเพราะเด็กจะเข้าใจง่ายกว่าตัวหนังสือ</span><br /></span><span style="font-family:times new roman;color:#ff0000;">การดำเนินกิจกรรม(เป็นลำดับขั้นตอน)</span><br /><span style="color:#000000;"><span style="font-family:times new roman;">1.ตั้งสมมติฐาน(เด็กตั้งสมมติฐานได้ครูตั้งคำถามต่อเด็ก)</span><br /><span style="font-family:times new roman;">2.การทดลอง</span><br /><span style="font-family:times new roman;">3.จดบันทึกผล</span><br /><span style="font-family:times new roman;">4.สรุปผล</span><br /><span style="font-family:times new roman;">5.นำผลไปเทียบเคียงกับสมมติฐาน</span><br /></span><span style="font-family:times new roman;"><span style="color:#ff0000;">สรุป:</span><span style="color:#000000;">การทำกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์กระบวนการแรกเด็กตั้งสมมติฐานจากการที่ครูตั้งคำถาม และทดลองเป็นการลงมือปฏิบัติ จากนั้นจดบันทึกผล สรุปผลและนำผลไปเทียบเคียงกับสมมติฐานทำให้เด็กได้ข้อเท็จจริง ได้ข้อความรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์ที่เกิดจากการสังเกต</span></span>น.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4902444547073481063.post-59355993329071471812011-07-22T02:21:00.000-07:002011-07-25T02:18:50.449-07:00ครั้งที่ 4 วันที่ 12 กรกฏาคม พ.ศ.2554<span style="color:#000000;">วันนี้นำเสนองาน Power point</span> <span style="color:#009900;">เรื่องจิตวิทยาการเรียนรู้</span><br /><span style="color:#000000;">นำเสนองานกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์</span> <span style="color:#009900;">เรื่องขวดเป่าลูกโป่ง</span><br /><span style="color:#000000;">เด็กได้เรียนรู้ว่าสิ่งสองสิ่งทำปฏิกริยาต่อกันจนทำลูกโป่งโตขึ้น</span><br /><span style="color:#000000;">ข้อเสนอแนะจากอาจารย์:ถ้าจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเด็ก อาจนำน้ำอัดลมใส่ลูกอม</span><span style="color:#000000;">ลงไปเกิดการกัดกร่อน จนลูกอมหายไปเพียงแค่ไม่กี่นาทีมาทดลองให้เด็กๆดู</span> <span style="color:#ff6666;">ซึ่งจะเชื่อมโยงกับเด็กโดยตรงเพราะลูกอมเปรียบเสมือนกระเพาะของคนเราถ้าเด็กกินน้ำอัดลมมากก็จะกัดกระเพาะและทำให้ฟันผุได้เพราะน้ำอัดลมมีน้ำตาลมาก ซึ่งเด็กจะได้ข้อความรู้เกี่ยวกับโทษของน้ำอัดลม</span><br /><span style="color:#000000;"><span style="color:#009900;">บรรยากาศในห้องเรียน:</span></span><span style="color:#000000;">วันนี้รู้สึกเครียดเนื่องจากงานที่นำเสนอเรื่องจิตวิทยาการเรียนรู้ไม่สามารถเปิด Power point ได้ และกลุ่มไม่ได้เตรียมความพร้อมมาจึงไม่สามารถสรุปงานได้ แต่ได้ข้อเสนอแนะจากอาจารย์จึงเป็นแนวทางในการปรับปรุงและเตรียมงานครั้งต่อไป</span>น.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4902444547073481063.post-16656210603393492012011-07-22T02:20:00.000-07:002011-10-08T07:04:41.522-07:00คร้งที่ 3 วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ.2554<span style="font-size:130%;"> <span style="color:#ff0000;">ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หมายถึง การฝึกฝนให้เด็กมีโอกาสได้ทำกิจกรรม จนเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คือ การสังเกต การแสดงปริมาณ การจำแนกประเภท การสื่อความหมาย การหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสเวลาเป็นต้น</span></span>น.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4902444547073481063.post-43163840629638837262011-06-29T01:27:00.000-07:002011-07-22T02:47:37.863-07:00ครั้งที่ 2 วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2554<span style="font-family:times new roman;"><strong><span style="color:#000000;">สรุปองค์ความรู้</span><br /></strong></span><br /><br /><a href="http://1.bp.blogspot.com/-HgJZlN4KykY/TgrrgI5I13I/AAAAAAAAAIs/GnMM2jq_-AA/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2593%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2.jpg"><img style="MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 331px; FLOAT: left; HEIGHT: 124px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5623566022100965234" border="0" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/-HgJZlN4KykY/TgrrgI5I13I/AAAAAAAAAIs/GnMM2jq_-AA/s200/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2593%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2.jpg" /></a><a href="http://4.bp.blogspot.com/-W-y3JY_ogzs/TgrrCY_i5FI/AAAAAAAAAIk/vmBspkVu_9w/s1600/%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A8%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%258C.jpg"><img style="MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 326px; FLOAT: left; HEIGHT: 127px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5623565511026730066" border="0" alt="" src="http://4.bp.blogspot.com/-W-y3JY_ogzs/TgrrCY_i5FI/AAAAAAAAAIk/vmBspkVu_9w/s200/%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A8%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%258C.jpg" /></a><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><span style="color:#000000;"><span style="color:#ff0000;">บรรยากาศการเรียนวันนี้</span>:วันนี้อาจารย์เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการตอบและสรุปองค์ความรู้ร่วมกันเพื่อนทุกคนสนุกสนานที่ได้เรียนกับอาจารย์มาก</span>น.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4902444547073481063.post-45346258201130398662011-06-21T02:25:00.000-07:002011-07-22T02:57:46.556-07:00ครั้งที่ 1 วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2554<a href="http://1.bp.blogspot.com/-E4QirNd_ldQ/Tgwna4rr92I/AAAAAAAAAJE/I3AVDvJUiYQ/s1600/%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%2B%25E0%25B8%259A%2B%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2593%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A8%25E0%25B8%25B2%2B%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%258C%2B%25E0%25B8%25B3%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%259A%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2587%2B%25E0%25B8%259B%2B%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A2.jpg"><img style="MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 306px; FLOAT: left; HEIGHT: 107px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5623913377524610914" border="0" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/-E4QirNd_ldQ/Tgwna4rr92I/AAAAAAAAAJE/I3AVDvJUiYQ/s200/%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%2B%25E0%25B8%259A%2B%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2593%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A8%25E0%25B8%25B2%2B%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%258C%2B%25E0%25B8%25B3%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%259A%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2587%2B%25E0%25B8%259B%2B%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A2.jpg" /></a><br /><br /><span class="Apple-style-span"></span><br /><br /><br /><div></div><br /><br /><div><br /></div><br /><div><span style="font-family:times new roman;"><span style="color:#ff0000;"><span class="Apple-style-span"></span></span></span></div><br /><div><span style="font-family:times new roman;"><span style="color:#ff0000;"><span class="Apple-style-span">ความหมายและความสำคัญของวิชาการจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย</span><br /></span></span><span style="color:#ff0000;">ประสบการณ์</span> <span style="color:#000000;">คือ การเรียนรู้ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเกิดการรับรู้โดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5และเรียนรู้เพื่อการอยู่รอดในการดำรงชีวิต<br /><span style="color:#ff0000;">การจัด</span> คือ การวางแผนออกแบบได้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5</span></div><br /><div><span style="color:#ff0000;">บรรยากาศการเรียนวันนี้:</span><span style="color:#000000;">วันนี้เป็นวันแรกของการเรียนอาจารย์เป็นกันเองเหมือนวิชาที่ผ่านมา และอาจารย์จะกระตุ้นให้เด็กเกิดองค์ความรู้โดยการใช้คำถามและการให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการเรียนทุกคน</span></div>น.ส. พรรณนิกา ฉุยฉายhttp://www.blogger.com/profile/00287919605481464557noreply@blogger.com0